คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ รายงานเหตุการณ์หลังเกมนัดชิงชนะเลิศ ช้าง เอฟเอ คัพ 2024/25 ระหว่าง เมืองทอง ยูไนเต็ด พบ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2568
เหตุการณ์
1—เหตุการณ์ที่ 1 ช่วงพักครึ่งการแข่งขัน ขณะนักกีฬาเดินกลับเข้าห้องพัก ผู้รักษาประตูหมายเลข 13 นีล เอเธอร์ริดจ์ (Neil Etheridge) สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไม่พอใจที่ทีมตนเองเสียประตูจากจุดโทษ ได้ใช้มือทุบป้ายผู้สนับสนุนที่ติดอยู่ตรงปากอุโมงค์ทางเข้าห้องพัก เกิดเป็นรอยแตกร้าวยาว
2—เหตุการณ์ที่ 2 นาทีที่ 26 กองเชียร์สโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด หลังประตูด้านทิศเหนือ ได้จุดประทัดลูกบอลขนาดเล็ก แล้วปาลงมาจากอัฒจันทร์ตกลงบนลู่วิ่งหลังประตู ทำให้เกิดเสียงดังได้ยินทั่วทั้งสนามพร้อมกับมีกลุ่มควันลอยขึ้นมา
3—เหตุการณ์ที่ 3 นาทีที่ 72 และต่อเนื่องนาทีที่ 74 หลังจากสโมสร เมืองทอง ยูไนเต็ด ได้ประตู กองเชียร์สโมสร เมืองทอง ยูไนเต็ด หลังประตู ได้จุดประทัดลูกบอลขนาดเล็ก ลักษณะคล้ายเหตุการณ์ในครึ่งแรก เกิดเสียงดังได้ยินทั่วทั้งสนามและมีกลุ่มควันลอยขึ้น
4—เหตุการณ์ที่ 4 หลังจบการแข่งขัน เวลาประมาณ 21.00 น. ได้รับแจ้งจากทีมงานรักษาความปลอดภัยว่า มีกลุ่มชายชุดดำ บางส่วนปิดบังใบหน้า มีหมวกคลุมผม ได้ผ่านแนวรั้วกั้นยาว ที่ฝ่ายรักษาความปลอดภัยกั้นไว้ระหว่างกองเชียร์ทั้งสองทีม
กลุ่มชายชุดดำกลุ่มนี้ เดินมาจากแนวรั้วกั้นฝั่งประตูทางออก เข้ามาในพื้นที่บริเวณลานจอดรถฝั่ง S ลักษณะเพื่อเข้ามาหากลุ่มกองเชียร์บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ถือธงเชียร์ของกองเชียร์บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
ต่อมากลุ่มชายชุดดำรายหนึ่งพยายามเข้าไปดึงด้ามธงเชียร์ของกองเชียร์สโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และเกิดการปะทะกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจผลักดันกองเชียร์ทั้งสองฝ่ายให้ถอยห่างจากกัน แต่ชายชุดดำดังกล่าวไม่ปฏิบัติตามคำขอของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และก่อความวุ่นวาย จนในที่สุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องเข้าจับกุม จนเหตุได้สงบลง
ผลพิจารณาโทษ
1—เหตุการณ์ที่ 1 ลงโทษผู้รักษาประตูหมายเลข 13 นีล เอเธอร์ริดจ์ (Neil Etheridge) สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทำลายทรัพย์สินของสถานที่จัดการแข่งขัน มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 1.5 ปรับเงิน 20,000 บาท และชดใช้ค่าเสียหายตามราคาประเมินให้ผู้เสียหาย (หากมี)
2—เหตุการณ์ที่ 2 ลงโทษกองเชียร์สโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด กระทำการใด ๆ ที่ไม่เหมาะสมในสถานที่จัดการแข่งขัน มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 4.3 ปรับเงิน 60,000 บาท
3—เหตุการณ์ที่ 3 ลงโทษกองเชียร์สโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด กระทำการใด ๆ ที่ไม่เหมาะสมในสถานที่จัดการแข่งขัน มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 4.3 ปรับเงิน 60,000 บาท
ดังนั้น เหตุการณ์ที่ 2 และ 3 ปรับเงินกองเชียร์สโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด เป็นเงิน 120,000 บาท เนื่องจากกองเชียร์สโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด กระทำความผิดตามระเบียบนี้ซ้ำในข้อเดียวกันภายในฤดูกาลแข่งขันเดียวกัน ให้พิจารณาเพิ่มโทษอีกไม่เกินกึ่งหนึ่งของกำหนดโทษที่จะลง จึงเพิ่มโทษสโมสร เมืองทอง ยูไนเต็ด ปรับเงินเพิ่มอีก 60,000 บาท รวมโทษปรับเงินทั้งสิ้น 180,000 บาท
4—เหตุการณ์ที่ 4 คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท ได้พิจารณาจากคลิปวิดีโอ ภาพถ่าย และประสานข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ แล้วเห็นว่า
บุคคลผู้ที่ก่อความวุ่นวายนั้น ได้ผ่านรั้วกั้นพื้นที่เข้ามาบริเวณลานจอดรถของสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ได้สังเกตพฤติกรรมอย่างใกล้ชิดก่อนจะเข้าระงับเหตุ ส่งผลให้บุคคลดังกล่าวได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดปราบปราม (ป.) พิเศษ สภ.คลองหลวง ภ.จว.ปทุมธานี จับกุมในที่เกิดเหตุทันที ในข้อกล่าวหา เมาสุรา หรือเมาอย่างอื่น ก่อความเดือดร้อนรำคาญ ประพฤติตนวุ่นวายในที่สาธารณะ และถูกดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว การก่อเหตุครั้งนี้ เป็นพฤติกรรมเฉพาะบุคคล การถูกดำเนินคดีตามกฎหมายจึงเหมาะสมแก่เหตุแล้ว คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท จึงมีความเห็นให้ยุติเรื่องไม่พิจารณาลงโทษสโมสรใดเพิ่มเติมในเหตุการณ์นี้
ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ
ข้อ 1.5 ทำลายทรัพย์สินของสถานที่จัดการแข่งขัน หรือของบุคคลใด ภายในสถานที่จัดการแข่งขัน ปรับเงินตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 20,000 บาท และชดใช้ค่าเสียหายตามราคาประเมินให้ผู้เสียหาย
ข้อ 4.3 ใช้วัสดุอุปกรณ์ใด ๆ ที่ก่อให้เกิดการรบกวนการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน หรือนักกีฬาฟุตบอลระหว่างการแข่งขัน เช่น การเป่านกหวีด หรือการใช้แตร หรือการใช้แตรไฟฟ้า หรือฉายแสงเลเซอร์ เป็นต้น หรือกระทำการใด ๆ ที่ไม่เหมาะสมในสถานที่จัดการแข่งขัน ได้แก่ การจุดพลุ หรือจุดประทัด หรือจุดไฟเย็น หรือจุดวัตถุอื่นจนเกิดเป็นควัน หรือจุดพลุบริเวณที่ว่างด้านหลังของอัฒจันทร์ ทั้งก่อน หรือระหว่าง หรือหลังจากการแข่งขันจบลงแล้ว จะถูกปรับเงินตั้งแต่ 30,000 บาท ถึง 60,000 บาท
หากผลจากการกระทำตามวรรคหนึ่งก่อให้เกิดอันตรายต่อบุคคลใด หรือเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน หรือสถานที่ใด องค์กรสมาชิกต้นสังกัดของกองเชียร์ที่กระทำ จะถูกปรับเงินตั้งแต่ 70,000 บาท ถึง 150,000 บาท และต้องรับผิดชอบต่อค่ารักษาพยาบาลของผู้ที่ได้รับอันตราย และค่าเสียหายของทรัพย์สินหรือสถานที่ รวมทั้งอาจถูกพิจารณาเพิ่มโทษ
ข้อ 4.4 กองเชียร์ทีมใด หรือกลุ่มบุคคลใด หรือบุคคลใด ขว้างปาหรือกระทำด้วยประการใด ให้วัสดุหรือสิ่งของอื่นใด เข้าไปในสนามก็ดี หรือกระทำต่อนักกีฬาฟุตบอล หรือเจ้าหน้าที่ทีม หรือกองเชียร์ทีมคู่แข่งขัน หรือเจ้าหน้าที่การแข่งขันก็ดี องค์กรสมาชิกต้นสังกัดของกองเชียร์ที่เป็นผู้กระทำ และ/หรือ องค์กรสมาชิกที่เป็นทีมเหย้าที่ปล่อยให้มีการกระทำดังกล่าวต้องรับโทษ จะถูกปรับเงินตั้งแต่ 30,000 บาท ถึง 60,000 บาท
บทที่ 3 ระเบียบว่าด้วยการลงโทษวินัย มารยาท สำหรับการแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพ และรายการกีฬาฟุตบอลอื่น ๆ ของสมาคม
ข้อความว่า “กรณีที่องค์กรสมาชิก (ทีม) นักกีฬาฟุตบอล เจ้าหน้าที่ทีม กองเชียร์ขององค์กรสมาชิก หรือเจ้าหน้าที่การแข่งขัน กระทำความผิดตามระเบียบนี้ซ้ำในข้อเดียวกันภายในฤดูกาลแข่งขันเดียวกัน ให้พิจารณาเพิ่มโทษอีกไม่เกินกึ่งหนึ่งของกำหนดโทษที่จะลง”